ว่าจะไปนมัสการสรีระสังขารพ่อแม่ครูอาจารย์
หลวงตามหาบัว
แล้วการไปนั้นก็สิ้นสุดลงแล้ว
ออกเดินทางเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เวลาประมาณเกือบสีี่ทุ่ม เตรียมตัวตอนสามทุ่ม
ขับไปตามทางด่วน
บังเอิญไปผิดเส้น แต่ก็หาทางเข้าเส้นที่จะไปเจอพอดี
ก็เลยเป็นอันว่า ได้เรียนรู้เส้นทางเส้นใหม่ไปในตัว
ถึงอุดรธานีประมาณตีสี่กว่า ๆ
กะว่าจะเข้าไปอาบน้ำอาบท่าในโรงแรม
ปรากฏว่า โรงแรมเต็ม
โรงแรมในเมืองอุดรดูเหมือนจะหนาแน่นไปด้วยผู้คนมากมายนัก
ไม่่ต้องกล่าวถึงวันที่ห้า มีนาคม ที่กำลังจะถึง
คนเยอะมาก ๆ
รถก็เยอะมาก ๆ
แทบจะเรียกได้ว่า
ถนนทุกสาย
มุ่งสู่วัดป่าบ้านตาด
กิจวัตรประจำวันของพระเณรก็ยังคงปกติ
คือมีการบิณฑบาตร ฉันจังหัน ถวายภัตตาหาร
โดย พระอาจารย์อินทร์ถวาย เป็นประธาน
สำหรับผู้ที่ไปวัดป่าบ้านตาดมาแต่เล็กแต่น้อยเช่นข้าพเจ้า
เห็นแล้วก็ใจหาย
ปกติข้าพเจ้าจะนั่งอยู่ด้านหลังหลวงตา
ตรงทางเดินเข้าศาลา จากกุฏิ ซึ่งเป็นทางที่ใกล้ที่สุด
สำหรับการเดินมาฉันของหลวงตา
และเป็นมุมที่จะได้เห็นหลวงตาแจ่มชัด
ข้าพเจ้าถ่ายภาพในมุมนั้นมาด้วยเพื่อเป็นที่ระลึกถึง
และเป็นการถ่ายทอดความทรงจำสู่ผู้อื่นได้สะดวก
(แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกลงรูป)
บรรยากาศเมื่อไม่มีหลวงตา เงียบ และชวนวังเวงใจแม้ผู้คนจะมากมาย
มีเพียงรูปหลวงตาวางอยู่บนที่ที่ท่านเคยนั่ง
ไร้เสียงกระแอมไอและเทศน์ก่อนฉัน ไร้เสียงให้พร
และไร้เสียงเทศน์หลังฉัน
มีเพียงเสียงพระอาจารย์อินทร์ถวายและเสียงโฆษกประกาศเรื่องต่าง ๆ
ข้าพเจ้าไปถึงวัดประมาณตีห้า ซึ่งขณะนั้นผู้คนก็มากแล้ว
เลือกที่จะไปถวายอาหารที่เตรียมไปที่ศาลาแทนที่จะใส่บาตร
เพราะพิจารณาแล้วว่า หลังตักบาตรเสร็จคนต้องเยอะและหาที่นั่งในศาลายากแน่ ๆ
นั่งภาวนาด้วยความกระท่อนกระแท่นถวายเป็นสังฆบูชา
วันนั้นเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ เสด็จด้วย
เมื่อพระฉันเสร็จเรียบร้อย
การเดินทางไปนมัสการสรีระสังขารจึงเริ่มขึ้น
เป็นการเดินไม่กี่ก้าว แต่ก้าวย่างลำบากยิ่ง
การเบียดเสียดแทรกตัวการขยับเขยื้อนเป็นไปอย่างช้า ๆ
นึกถึงบรรยากาศตอนไปไหว้พระแก้วมรกตตอนวันปีใหม่
คนแน่นขนาดนั้นเลยทีเดียว
กราบเสร็จก็ถ่ายรูปและเดินไปดูเมรุที่กำลังสร้าง
แล้วก็ไปกินข้าวกับแม่อุทัยรัศมี
แล้วจึงกลับ
กลับกว่าจะถึงที่พักก็สามทุ่ม
ตลอดระยะเวลาตั้งแต่สามทุ่มถึงสามทุ่มของอีกวัน ไม่มีการนอนหลับพักผ่อนเลย ทำเสมือนหนึ่งถือเนสัชชิกเป็นสังฆบูชา
ความจริงวันเสาร์ตอนบ่ายก็ไปงานวรรณกรรมวิจารณ์มา
ตอนเช้าทำฟัน
เป็นวันแห่งการทำงานและเหน็ดเหนื่อยดีแท้
ตื่นมาวันจันทร์ คือวันนี้
ก็ตื่นแต่เช้า มาทำงาน
ชีวิตที่ไม่พักผ่อนของข้าพเจ้า
ชีวิตที่ต้องเดินทางของข้าพเจ้า
ชีวิตที่ต้องลำบากของข้าพเจ้า
แม้ความเป็นจริงแล้ว
ข้าพเจ้าสามารถที่จะพักผ่อน
ไม่เดินทาง
และไม่ต้องลำบาก
แต่ข้าพเจ้าไม่อาจเลือก
ในเมื่อทุกอย่างต้องเป็นไปเพื่อการฝึกฝนพลังแห่งหัวใจให้แข็งแกร่ง
เรามิอาจอ่อนแอ ไม่อาจท้อแท้แม้เมื่อล้ม
Arty Dhanyaawalaya
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น