ซื้อ E-BOOK
![]() |
|

หลึงหลืด
ข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้ชักจะนึกคำอิสานไม่ออก
หมายถึงคำที่เป็นศัพท์เฉพาะ
อาจเป็นได้ว่า
ไม่ค่อยได้ใช้
แต่ข้าพเจ้าก็พูดได้เสมอ
และฟังเข้าใจ
มีอย่างเดียวที่ฟังแล้วต้องเพ่งสมาธิทำความเข้าใจ
คือกลอนลำ
กลอนลำนี้หมายถึงกลอนลำโบราณจริง ๆ
ไม่ใช่ลำมะล้อกก๊อกก๋อยเหมือนสมัยนี้
เพราะกลอนลำนี้จะว่าเร็วมาก
ต้องตั้งใจฟังจริง ๆ จึงจะรู้เรื่อง
มันเป็นเหมือนบทกวี
บทกวีฟังก็เข้าใจยากอยู่แล้ว
นี่บทกวีแบบแร็พแถมมีคำเฉพาะ
และถ้อยคำซ่อนเงื่อนเยอะอีก
บางทีก็เป็นคติที่ต้องตีความ
อนึ่ง
ข้าพเจ้าไม่คุ้นเคยกับกลอนลำนัก
จึงฟังยากหน่อย
ว่าด้วยเรื่องภาษาอิสาน
ข้าพเจ้าดีใจที่เกิดมาแล้วมีภาษาอิสานเป็นภาษาแม่
เพราะครูบาอาจารย์สายวัดป่า
ก็เป็นคนอิสานแทบทั้งสิ้น
เวลาไปวัดแล้วสนทนากับครูบาอาจารย์
พูดภาษาอิสานกันแล้วมันสนิทใจกว่า
มันอบอุ่นกว่า
และมันได้อรรถรสกว่า
แม้ขนาดกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย
ข้าพเจ้าก็พูดภาษาอิสานกับท่าน
แต่ถ้าเวลามีแขกมาก ๆ แล้วพูดภาษากลาง
ก็พูดกลางไปตามเรื่องตามราว
กับครูบาวิทย์นี่ไม่ได้พูดภาษากลางกันเลย
ทำให้เกิดความสนิทชิดคุ้นมากกว่าปกติ
"หลึงหลืด" เป็นคำอิสาน
เป็นคำภาษาอื่นด้วยหรือเปล่าข้าพเจ้าไม่ทราบ
ขี้เกียจค้น
แปลประมาณว่า เคยชิน แต่เคยชินแบบไม่ค่อยดีนัก
คือเคยชินแบบดื้อด้าน
เช่น เวลาเราอยู่ที่ไหนไปนาน ๆ แล้วมันไม่กลัวอะไรแล้ว
มันทะโมนแล้ว เราก็เรียกว่า หลึงหลืด
หรือ คำนี้อาจจะใช้ในความหมายว่าเป็นคนดื้อด้านได้
เช่น เด็กคนนี้มันหลึงหลืด
การหลึงหลืด มักจะมีเหตุมาแต่ความคุ้นชิน เคยชิน
หรือสนิทมากเกินไป พูดอะไรก็ไม่เชื่อฟัง
อุปมาเหมือนเด็กคนหนึ่งไปอาศัยอยู่กับญาติ
แรก ๆ ก็เชื่อฟังดี อาจด้วยเพราะกลัวหรือเกรงใจ หรืออะไรก็แล้วแต่
ต่อมาชักหลึงหลืด บอกอะไรไม่เชื่อ เพราะคุ้นแล้ว เคยชินแล้ว
ทีนี้มันก็เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมด้วยเหมือนกัน
เวลาพระท่านไปอยู่ที่ไหน
โดยเฉพาะสายวัดป่า
ถ้าไปธุดงค์ ท่านมักจะไม่อยู่ติดที่ติดถิ่น
ไม่อยู่นาน ๆ
ท่านว่า มันจะหลึงหลืด
จิตไม่ระแวงระวัง
จิตไม่ว่องไว
เพราะมันหลึงหลืด
ข้าพเจ้าค่อนข้างได้นิสัยด้านนี้
อาจติดมาจากการอ่านหนังสือจำพวกนี้มากไปหน่อย
ทำให้อยากย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ
สังเกตง่าย ๆ
ถ้าได้เป็นว่าช่างตัดผมในถิ่นที่อยู่
เริ่มรู้จักว่าข้าพเจ้าเป็นใครแล้ว
ข้าพเจ้ามักจะหาเรื่องอยากย้ายหนีเสมอ
การไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่นไปเรื่อย ๆ
คงเป็นวิถีของข้าพเจ้า
พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่อยู่ติดที่
ไปเรื่อย
จำพรรษามากสุดก็ที่วัดเชตวันเท่านั้น
นอกนั้นก็ไปเรื่อย
พิจารณาดูแล้ว
ที่พระองค์อยู่เชตวันมากสุด
อาจเป็นเพราะทรงชราแล้วด้วยประการหนึ่ง
จึงต้องทรงหาที่ประทับเป็นหลักแหล่ง
แต่ก็ยังไปมาระหว่าง บุบผาราม
ไม่ติดที่เสียเกินไป
นอกจากนี้
ท่านอาจจะเหาะเหินไปโปรดผู้ใดในถิ่นอื่นบ้างก็ได้
อันนี้เราไม่อาจรู้ละเอียด
ที่ฝอยมานี่ก็ไม่ใช่อะไรมาก
แค่จะบอกว่า
ตอนนี้ก็ร่ำ ๆ จะหนีจากกรุงเทพฯ ไปอีกแล้ว
กลัวหลึงหลืด
หึหึ
อาทิตย์
๑๓ มกราคม ๒๕๕๕
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น