เย็น ๆ หลังจากไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว
ก็มาเที่ยวพระจุฑาธุชราชฐาน
ในแผ่นดินฤดูหนาวอันแห้งแล้ง
ต้นไม้ก็ต่างผลัดใบ
ต้นลั่นทมจึงเป็นอย่างที่เห็น
บรรยากาศตอนเย็น ๆ
สบาย ๆ
เดินชิล ๆ
ล้วนแล้วแต่ต้นลั่นทม
ต้นใหญ่มาก
อายุก็เป็นร้อยปีแล้ว
รูปด้านล่างนี้เป็นระฆังหิน
เวลาเอาหินก้อนเล็ก ๆ ไปเคาะ
มันก็จะเสียงดังแก๊ง ๆ เหมือนระฆัง
อันนี้นักท่องเที่ยวส่วนมากไม่ค่อยรู้
มันต้องคนเคยไป
เป็นอะไรที่พิเศษจริง ๆ
มนุษย์เราก็แปลก
รู้ได้ไงว่าหินก้อนนี้เคาะแล้วเสียงดัง
มันไล่เคาะหินทุกก้อนเลยหรือเปล่า
จนกระทั่งมาค้นพบหินก้อนนี้
น่าสงสัยในกระบวนการได้มาซึ่งความรู้นี้จริง ๆ
สระมหาอโนดาต
เป็นสถานที่สรงน้ำสมัยรัชกาลที่ ๕
พระองค์ท่านและมเหสี ก็สรงน้ำที่นี่
มองดูมุมนี้เหมือนรูปหัวใจ
ตอนเย็น ๆ แล้ว
ไปช่องเขาขาดเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน
เจอหมาตัวหนึ่ง
ตอนซื้อปลาหมึกย่าง
จึงพยักหน้าเรียกมันมาด้วย
เป็นหมาที่ฟังภาษาคนรู้เรื่องดีทีเดียว
มันก็เดินมา
ก็เอาปลาหมึกให้มันกิน
มันก็กินอย่างเรียบร้อย
ไม่แสดงอาการโลภโมโทสันแต่อย่างใด
ถามคนแถวนั้นบอกว่า
มันถูกเอามาปล่อยไว้นานแล้ว
แต่ก็แปลกดี
มันไม่ไปกับคนอื่นเลย
มันมาแต่กับข้าพเจ้าเท่านั้น
บอกให้นั่งลงมันก็นั่งลง
พระอาทิตย์ตกดิน
แพรวาถ่าย
ข้าพเจ้านั่งกินปลาหมึกกับหมาอยู่
เดี๋ยวนี้แพรวาถ่ายรูปสวย
เผลอ ๆ จะถ่ายสวยกว่าข้าพเจ้าเสียด้วย
ถ่ายรูปเสร็จก็นั่งเล่นหมากรุกกัน
เป็นหมากรุกฝรั่ง
เป็นแม่เหล็ก
ไอ้หมากรุกนี่
เราชอบหอบหิ้วมันไปด้วย
คราวหนีน้ำท่วม
ก็หอบไปด้วย
เล่นได้ทุกที่
เพราะเป็นแม่เหล็ก
ไม่ต้องกลัวหล่น
ไอ้หมากรุกนี่แพรวา
ชักจะเล่นเก่งขึ้นมาทุกวัน ๆ แล้วเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้เล่นชนะข้าพเจ้าบ่อย
555
เล่นไปสักพักก็มืด
เขาก็เปิดไฟสปอร์ตไลท์ให้
พอพวกเราออกไป
เขาก็ปิดไฟ
ไปหาอะไรกินร้านแถวนั้น
อิ่มอร่อยกับอาหารทะเล
ขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ รับลม
แล้วก็กลับโรงแรมที่พัก
แวะซื้อผลไม้ไปกินด้วย
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๑๑ มกราคม ๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น