ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา


ปกติข้าพเจ้าป่วย  สองปีครั้ง

อันนี้คือนับตั้งแต่โตขึ้นมา

ไม่นับตอนเป็นเด็ก

บางครั้งก็ไม่ป่วยเลยหลายปีติดต่อกัน

จนกระทั่งเกือบจะอยากทำเป็นลืมไปว่า

เราต้องป่วย

แต่ความจริงแล้ว

ข้าพเจ้าไม่เคยลืมว่า

เราต้องป่วย

เพราะข้าพเจ้ามีโรคประจำตัวคือ

เป็นภูมิแพ้

แพ้อากาศ  และกลิ่นทั้งหลายทั้งปวง

บางทีข้าพเจ้าแพ้แม้กระทั่งกลิ่นสบู่หรือแชมพู

สภาพอากาศที่ไม่ดี

หรือมีอะไรผิดแปลกเล็กน้อย

ข้าพเจ้าก็มักจะมีอาการ

จาม  และน้ำมูกไหล

บางครั้งถ้าได้รับสารกระตุ้นตั้งแต่เช้า

ก็มักเป็นไปเรื่อย ๆ  ทั้งวัน

คือน้ำมูกไหลไปเรื่อย

เป็นสิ่งที่น่ารำคาญ


จำได้ว่าข้าพเจ้าเริ่มเป็นโรคนี้เมื่อสมัยประมาณอายุ

สิบสอง  หรือสิบสามปี

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนัก

แต่จำได้ว่า

เคยไปหาหมอด้วยอาการนี้

และกินยาอยู่ช่วงหนึ่ง

ข้าพเจ้าก็เริ่มตระหนักแล้วว่า

ไอ้โรคนี้

มันไม่มีทางหายไปจากข้าพเจ้า

ชีวิตก่อนจะเป็นภูมิแพ้นั้น

ก็ไม่ใช่จะสบายนัก

เนื่องจากเป็นโรคบ่อย

โรคที่ข้าพเจ้าเป็นบ่อยที่สุด

คือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

ข้าพเจ้าเกือบตายเมื่อตอนเป็นเด็ก

เนื่องจากเป็นปอดบวม

ผู้คนละแวกบ้านข้าพเจ้าไม่มีใครคิดว่า

ข้าพเจ้าจะเติบโตเป็นผู้เป็นคนมาถึงขนาดนี้

เพราะข้าพเจ้านั้นไม่ค่อยแข็งแรง

หนำซ้ำยังเคยได้รับการวินิจฉัยว่า

เป็นโรคขาดสารอาหารอีกต่างหาก

มันไม่ใช่ไม่มีอะไรจะกิน

แต่เป็นข้าพเจ้าเอง

ที่ไม่ค่อยกินอะไร

และที่บ้านก็ตามใจ

ซึ่งนิสัยอันนี้ก็คิดตัวข้าพเจ้ามาจนทุกวันนี้


ในวันใดที่ข้าพเจ้าเข้านอนด้วยอาการหายใจโล่ง

นับว่าวันนั้นเป็นวันวิเศษของข้าพเจ้า

และข้าพเจ้าเริ่มค้นพบว่า

วิธีการที่ทำให้ข้าพเจ้าได้คลายจากโรคได้

ก็คือ  การนั่งสมาธิ

ความจริงไม่เชิงค้นพบ

แต่สังเกตเห็นด้วยการมองและใคร่ครวญในเหตุผล

มากกว่า


เมื่อเติบโตขึ้น

การป่วยด้วยโรคอื่น ๆ  ไม่ค่อยกล้ำกลายข้าพเจ้า

คงเป็นเพราะข้าพเจ้ามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว

สองปีครั้งก็ดูเหมือนจะมากไป

หากข้าพเจ้าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี


ช่วงนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า

สภาพแวดล้อมไม่ดี

ทั้งที่พัก

และที่ทำงาน

ที่ทำงานข้าพเจ้ามีอาการแสบตา

ทำงานเสร็จกลับห้องจะตาแดง

และบางครั้งเป็นมาก

ก็มีอาการเจ็บตา  ระคายเคืองเหมือนเป็นโรคตาแดง

มาก ๆ  ก็รู้สึกเหมือนกับว่า  ตานั้นมีเข็มทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา

บางครั้งเจ็บมากจนกระทั่งลุกลามไปทำให้ปวดหัว

ร่างกายข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าย่อมรู้จักมันดีที่สุด

เพราะข้าพเจ้าสังเกตกายตัวเองอยู่เสมอ


ห้องที่ข้าพเจ้าอยู่ไม่ถึงเดือน

มีราขึ้นสิ่งของ

เป็นความอับชื้น

ห้องที่ชื้นนี่เอง

ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย

ข้าพเจ้าไม่ถูกกับอากาศชื้น

นอกจากนี้

ข้าพเจ้าคิดว่า

มีส่วนมาจากสภาพแวดล้อมที่ทำงาน

เนื่องจากกลิ่นที่ฉุนจมูก  และทำให้แสบตานั้น

มันมีผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจ

(อากาศชื้นก็เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเช่นกัน)

ข้าพเจ้าผู้ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว

อาการก็ยิ่งมากำเริบ

ไม่ถึงสองเดือนที่ย้ายที่ทำงานใหม่

ข้าพเจ้าป่วยไปแล้วถึงสองครั้ง

แต่ละครั้งเจ็บคอมาก


รู้สึกเหมือนกับทุกอย่างเป็นความทรมานของชีวิต


ต้องอาศัยการพิจารณาว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา

แต่บางครั้งข้าพเจ้าก็อยากขอโทษร่างกายตัวเอง

ที่พามาอยู่ในสถานที่ที่ทุเรศทุรังเช่นนี้

ร่างกายข้าพเจ้า

ไม่ได้มีความหมายแค่ข้าพเจ้า

แต่มีความหมายถึงพ่อแม่  ยาย  น้อง

และคนรัก

หากมันมีความหมายแค่ข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าก็ไม่นึกห่วงเลย


มีเพียงสามครั้งรวมครั้งนี้เท่านั้น

ที่ข้าพเจ้าลาหยุดงานเพราะ

ป่วย

ปกติแม้ว่าจะป่วยเพียงใด

ข้าพเจ้าก็พยายามไปทำงาน

เพราะข้าพเจ้าตระหนักดีกว่า

งานของข้าพเจ้านั้น

ไม่ได้มีผลประโยชน์เพียงข้าพเจ้าคนเดียว

หากข้าพเจ้าไม่ทำงาน

ผู้อื่นก็เสียผลประโยชน์ด้วย

แต่ก็นั่นแหละ

หากข้าพเจ้าต้องตายไป

ครอบครัวและคนรักข้าพเจ้าเท่านั้น

ที่สูญเสีย

หากบริษัทผู้ว่าจ้าง

ก็แค่หาคนใหม่มาทำงาน

นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า

ทำไมคนเราต้องดูแลสุขภาพยิ่งกว่าอื่นใด



ธัชชัย  ธัญญาวัลย
๒๐  ตุลาคม  ๒๕๕๕



ไม่มีความคิดเห็น: