๏ สายแล้ว...เจ้าพายุ
พัดโพยมโหมกระหน่ำ
ฝุ่นควันดำ
ตรลบฟุ้งอยู่เฟี้ยวฟ้าว
ปื้ดป้าดก้องกัมปนาท
สนั่นสะท้านสะเทือนหาว
อากาศแยกร้าว
เป็นสิบแฉกเฉกตะวันรัศมี
น้ำฟ้าทะลวงฟ้า
ลงมาฟาดปถพี
สิ่งสร้างอันใดดี
แหลกเหลวปี้ป่นย่อยยับ
ตึกรามบ้านช่อง
แทบจะพลิกเอาหัวกลับ
ทบท่าวลงท่วมทับ
น้ำก็ท้นทะลักทะลุ ฯ
๏ ผู้คนทนทรหด
บ่ห่อนไห้ในเมืองผุ
หมั่นบำรุงทำนุ
ความเหม็นเน่าด้วยเขลานัก
ดังหนอนในบ่อคูถ
ดังควายเฒ่าสำเริงปลัก
ของใครใครก็รัก
จะเหลือร้ายก็รื่นรมย์ ฯ
๏ จนดึกดื่นโน่นแล้ว
เจ้ามหันตภัยจึงสาสม
มอบความสงบให้ชม
และชั่วครู่ก็จะเช้า ๚๛
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
๐๖.๐๘ น. อังคาร ๒๕ กันยายน ๒๕๕๐
2 ความคิดเห็น:
ฝนก็ตกน้ำก็.......ท่วมถนน
รถติดทุกแห่งหน....ไม่เขยื้อน
ทั้งคนนั่งทั้งคน.....ขับหงุด หงิดเฮย
มีแต่คำบ่นเอื้อน....บ่สิ้นตลอดทาง
ไปทำงานในตอนเช้าและกลับบ้านในตอนเย็น
Knight
หวังใดหวังจักได้.........ดั่งหวัง
หวังดั่งหวังใดพัง.........ดั่งได้
หวังอื่นหมื่นแสนดัง.......หวังนั่น...นั้นนอ
หวังแต่หวังอยากให้.......โลกร้อนคลายเย็น
แสดงความคิดเห็น