ผมยังไม่ได้กล่าว สวัสดีปีใหม่ อย่างเป็นทางการกับทุกท่านเลยนะครับ
ไม่เป็นไร คาดว่าคงไม่ถือสาหาความ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาจากว่า ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับปีใหม่มานานนักหนา
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ขนาดวันเกิดตัวเองก็ยังงั้น ๆ
แล้วปีใหม่จะให้พิเศษขนาดไหนเชียว
หนึ่งวันผ่านไป ก็แค่หนึ่งวันผ่านไป
ความจริงปีใหม่แท้ ๆ ตามคำว่า พุทธศักราช ควรจะเป็นวันวิสาขบูชามากกว่า
เนื่องด้วย เราถือว่า พ.ศ. ๑ เริ่มนับจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
พอวัฒนธรรมลูกผสมเกิดขึ้น ก็เป็นอันแห่ตามกระแสไปกันหมด
โดยอ้างชื่อกระแสนั้นเพื่อความชอบธรรมว่า ความเป็นสากล
จะสากลหรือสาเกไม่ทราบ ผมขี้เกียจสาด้วย
แต่ก็ดีอย่างหนึ่งตอนปีใหม่ได้มีวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้ได้ไปพักผ่อนอย่างที่อยากจะไปบ้าง
ความจริงผมก็ไม่ได้อยากจะไปไหนหรอก แต่มาติดที่คนอื่น
วันที่ ๓๑ ก็มีคนมาหา อยากเที่ยวปีใหม่ไหว้พระขอพร
ก็ไม่รู้จะขอพรอะไรนักหนา ทั้งที่อะไร ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเองทั้งนั้น
ต่อให้ไปไหว้พระทุกวัดที่มีในโลก
ก็คงไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นมากว่าเดิมสักเท่าไหร่
ผมก็ต้องพาไปตามระเบียบ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ
ใครอยากไปไหนผมก็พาไปได้ทั้งนั้น
ด้วยความยินดี
วันที่ ๑ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ชวนไปเที่ยวตลาดน้ำดอนหวาย ก็ไป
ล่องเรือโบราณชมแม่น้ำท่าจีนเสียหน่อย
ที่สามพราน นครปฐมนี่เอง ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว
บรรยากาศการล่องเรือก็เต็มไปด้วยความสุข เพราะเป็นบรรยากาศผ่อนคลายยามบ่าย ๆ
นับเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่ง
ก็มีโอกาสผ่านวัดไร่ขิง
หลวงพ่อวัดไร่ขิงนี้เป็นหลวงพ่อรุ่นเดียวกับ
หลวงพ่อวัดบ้านแหลมและหลวงพ่อโสธร
แต่ดูจากกระแสสังคมหลวงพ่อโสธรจะดังกว่าทุกหลวงพ่อ
ก็สมควรเป็นอย่างนั้น เพราะดูจากตำนาน และสภาพภูมิประเทศ ( ตำนานอันนี้เคยอ่านตอนเป็นเด็ก ๆ อายุประมาณ ๘-๙ ขวบ ความถูกต้องมีมากน้อยเท่าไหร่ผมไม่รับประกันนะครับ เพราะอาศัยหลักฐานทางความทรงจำเท่านั้น ) หลวงพ่อโสธรท่านลอยไปไกลกว่าเพื่อน คือ ไม่ยอมขึ้นฝั่งสักทีว่างั้นเถอะ
ตามตำนานมีอยู่ว่าพระผู้มีอาคม สามรูป ได้อธิษฐานให้ตัวเองกลายเป็นพระพุทธรูปลอยตามน้ำไป
ก็ลอยไปเรื่อย ผ่านแห่งหนตำบลไหนโผล่ขึ้นมาคนก็ทำพิธีคล้องเอาขึ้นจากน้ำ
หลวงพ่อวัดไร่ขิงขึ้นก่อน จากนั้นก็ วัดบ้านแหลม ความจริงวัดบ้านแหลมนี้ก็มีชื่อเสียงมานาน ฟังจากเพลง ลาสาวแม่กลอง ท่อนหนึ่งใจความว่า "เมื่อสงกรานต์งานวัดบ้านแหลม เคยเที่ยวชมกับโฉมแฉล้ม.."
สุดท้ายคือหลวงพ่อโสธร ขึ้นที่ฉะเชิงเทรา
จากเท่าที่เคยไปนมัสการ ก็เห็นว่า วัดหลวงพ่อโสธรนั้นยิ่งใหญ่กว่าใครเพื่อนครับ
ที่ล่องเรือไปก็ได้ชมบ้านเรือนสองฝั่งของแม่น้ำ ฝั่งหนึ่งวัตถุนิยม อีกฝั่งหนึ่งคลาสสิก
ผมชอบฝั่งคลาสสิกมากกว่า เป็นลักษณะดั้งเดิม บ้านเรือนก็ดั้งเดิม
เขาปลูกผักบุ้งกันตามริมแม่น้ำ เป็นรายได้อย่างหนึ่งนอกจากทำสวน
ข้อเสียอย่างหนึ่งของบ้านแม่น้ำก็คือ ยุงเยอะครับท่าน
ผมเคยปะสบด้วยตัวเองมาแล้วคราวที่ไปฉะเชิงเทรา
ยุงตัวเท่าแม่ไก่ มันมีจริง ๆ
ได้ดูบ้านที่เขาถ่านทำหนังเรื่องคู่กรรม ตั้งแต่สมัยป๋าเบิร์ดแสดงด้วย
เรื่องคู่กรรมตอนนั้นดังมาก ผู้คนติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง
บางคนคิดว่าเป็นเรื่องจริงเลยทีเดียว
จำได้ว่ายังเป็นเด็กอยู่ ทีวีที่บ้านก็ยังเป็นทีวีขาวดำ
ผมดูไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับ
ก็เป็นเด็กนี่นา
ล่องเรือเสร็จก็กลับกรุงเทพฯ รถไม่ค่อยติด
พอดีน้องอยากไปปล่อยปลา ก็เลยพาไปที่วัดระฆังฯ
ตอนนั้นก็เย็นแล้ว ประมาณ ๖ โมงเย็น
แต่ผมแน่ใจว่าวัดระฆังฯ ยังไม่ปิดแน่นอน
ปกติ วัดนี้ปิดเย็นพอสมควรครับ
( โดยเฉพาะช่วงเทศกาล )
ถ้าอยากสวดมนต์ทำวัตรเย็น ก็ประมาณ ๔-๕ โมงเย็น
พระท่านจะมาสวดมนต์ที่โบสถ์ เราก็ไปร่วมสวดได้
จากนั้นก็มาเที่ยวสนามหลวง แล้วก็กลับ
มาเดินมาบุญครองนิดหน่อย
พอดีตรงบันไดเลื่อนที่เป็นสะพานข้ามจากสยามมามาบุญครองคนมันว่าง
ก็เลยชวนกันวิ่งสวนทางมันซะงั้น สนุกดีเหมือนกัน
ได้เล่นอะไรที่เป็นเด็ก ๆ 555+
วันนี้นอนทั้งวัน เหนื่อย
ขอให้ทุกท่านสุขขี ๆ ปีใหม่เทอญ
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
06/01/2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น