สวัสดีวันอาทิตย์ตอนบ่าย ๆ ใกล้จะเย็น ๆ ครับ
วันนี้อากาศดี
ตื่นสายอีกตามเคย
การตื่นสายสำหรับวันหยุดก็เป็นเรื่องปกติ
ความจริงจะเรียกว่าตื่นสายก็ไม่เชิงหรอก
เรียกว่าตื่นบ่ายดีกว่า
ตอนแรกว่าจะมีบทกวีมาฝาก
แต่บังเอิญเขียนไปเขียนมา
เอ๊ะ! เข้าท่า
ก็เลยกะจะส่งเข้าชิงพานแว่นฟ้าเสียหน่อย
อ่ะนะ
มีเวลาตั้งเนิ่นนานไม่เขียน
ดันมาเขียนเอาตอนใกล้จะถึงวันส่ง
ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอกครับ
บังเอิญว่าวันก่อนมันเกิดอยากเขียนขึ้นมา
บทกวีนี่แปลกอย่างหนึ่ง
ถ้าดึงดันจะเขียน มันจะไม่ให้เขียน
ต้องปล่อยให้มันสบาย ๆ
หรือปล่อยให้มันอัดอั้นตันใจ
มันจะออกมาของมันเอง
เมื่อวาน
ไม่ใช่สิ
ความจริงก็หลายวันมาแล้ว
เอาเป็นว่า
กาลครั้งหนึ่งก็เล้วกัน
กาลครั้ง...
ก็นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนว่าง ๆ
ความจริงก็ไม่ได้ว่างอะไรหรอก
แต่เสือกกะโหลกทำให้มันว่างเอง
คือชีวิตอันไร้สาระของคนเราเนี่ย
มันแล้วแต่เราจะทำให้มันเป็นไป
อยากให้มันว่างก็ทำซะ
อยากให้มันยุ่งก็ทำซะ
ทำได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีศิลปะในการทำ
และรู้วิธีการทำด้วย
ใครรู้ก็สบาย
ใครไม่รู้ก็เครียดไปจนวันตายโน่นแหละ
พูดถึงเรื่องเครียด
คนเราก็ชอบเครียดกัน
ความจริงก็ไม่ใช่อยากเครียดหรอกมั้ง
แต่มันไม่รู้จะทำอย่างไร ( หรือไม่รู้จะทำอะไร )
ก็เลยเครียด
ไอ้ที่เครียด ๆ นั่นแหละ
ลองนั่งดูมันเล่น ๆ ว่า
มันเครียดเพราะอะไร
มันมีอะไรนักหนาหนอชีวิตเส็งเคร็งนี่
มันถึงได้เครียดนัก
ก็เป็นอันสรุปว่า
ที่มันเครียดเนี่ย
เพราะมันไม่อยู่กับปัจจุบัน
มันไปอดีตบ้าง
ไปอนาคตบ้าง
คิดถึงเรื่องอดีต
คิดถึงเรื่องอนาคต
วนเวียนไปเรื่อย
มันจะเป็นอย่างไรนะอนาคต
อดีตนี่มันทำไมเป็นอย่างนี้นะ
แล้วก็เกิดอารมณ์นั้นอารมณ์นี้ขึ้นมา
เกิดอาการวิตกขึ้นมา
เกิดอาการเครียดขึ้นมา
นั่นแหละ ๆ
มันก็อยู่ที่ตรงนั้น
วิธีไม่เครียดก็อยู่กับปัจจุบันซะ
มีอะไรอยากทำก็ทำซะ
ทำหน้าที่ของความเป็นปัจจุบันไปเรื่อย ๆ
แต่อันนี้ก็ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้คิดถึงอดีตหรืออนาคต
คิดก็คิดได้นะ
แต่คิดแล้วอย่าเอามาทำร้ายตัวเอง
คิดจบก็จบ
อย่าคิดซ้ำซาก
อย่าคิดร่ำไร
อย่าไปคิดปรุงแต่งในอะไร ๆ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น
เพราะอะไรที่มันยังไม่เกิดขึ้นมันไม่แน่
ไม่แน่ว่ามันจะเกิดรึเปล่า
ถ้ามันจะเกิดจริง ๆ
คิดไปก็เท่านั้น ทำอะไรมันก็ไม่ได้
ก็มันจะเกิดอยู่แล้วนี่
คิดให้ตายมันก็เกิด
หรือถ้ามันไม่เกิดขึ้นจริง
อ่านะ
มันก็เสียเวลาคิดไปโดยเปล่าประโยชน์
ไร้สาระที่สุด
วิธีการอีกอย่างหนึ่งที่จะไม่เครียดก็คือ
อยู่เฉย ๆ นี่แหละ
ทำไมต้องอยู่เฉย ๆ
ก็ถ้าอยู่ไม่เฉย มันเครียด
ก็อยู่เฉย ๆ ซะ
อยู่เฉย ๆ คือวางเฉย
ที่วางเฉย เพราะเรารู้ทันมัน
รู้แกวมันละ
รู้ว่าอะไร
ก็รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลง
มันต้องเป็นอย่างนั้น
มันไม่อยู่นิ่ง
วันนี้ไม่ดี เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ดี
พรุ่งนี้ไม่ดี มะรืนนี้มันก็ดีจนได้
เรื่องร้าย ๆ
เดี๋ยวมันก็หายไปเอง
ระหว่างที่รอมันหายก็อย่าทุรนทุราย
เฉยไป
อันนี้ก็จบ
อ่านะ
เทศนาก็มีเพียงเท่านี้
เอวัง
5555+
ธัชชัย
13/07/2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น