ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

เรื่องคอขาดบาดตาย



เฮ้อ! ผมก็ลืมไปว่าเคยพูดอะไรไปบ้าง



อ่านดูเรื่องเก่า ๆ จึงได้รู้ว่า



"จะเล่าเรื่องคอขาดบาดตายให้ฟัง"



เรื่องมันก็มีอยู่ว่า



แต่น แตน แต๊น...



No disc



อิอิ ล้อเล่นครับ



ที่จริงก็คือ



ERROR



เหอะ ๆ



ลอกมุก เขามาทั้งดุ้น





ก็เมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่เป็นช่วงปลาย ๆ เดือนกันยายน



หรืออาจจะต้นเดือนตุลาคม



ไม่แน่ใจ



มันชักลืม ๆ



กระจกที่ใช้มาหลายปีดีดัก เกิดหล่นจากมือ



( มันแผ่นใหญ่เหมือนกันนะ ประมาณ 8 x 10 นิ้ว )



แตกเป็นสามเสี่ยง



บาดมืดเล็กน้อย ( ขอบกระจกที่เป็นเหล็กน่ะครับ )



ก็คิดในใจว่า มันต้องมีใครเป็นอะไรแน่ ๆ



หรืออาจจะเป็นเรา



เออ ก็นี่มันกระจกกรูนี่หว่า



แต่



ก็ผ่านไป ไม่ได้คิดอะไรต่ออีก กระจกก็ไม่ได้ซื้อใหม่



ใช้ที่มันแตก ๆ นั่นแหละ ขี้เกียจ



จนกระทั่งหลายวันหลังจากนั้น



ทราบข่าวว่า รุ่นพี่คนหนึ่งที่ทำค่ายร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา



ขับรถไปชนรถ เข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน



อาการหนักพอสมควร



นึกว่าเรื่องจบแค่นั้น



แต่





วันต่อมา



รุ่นน้องที่เคยทำค่ายเดียวกันนี่แหละ



บอกว่า รถชนต้นไม้



โชคดีมันไม่เป็นอะไรมาก



เราก็โล่งใจ



ประโยคถัดมา



คู่กรณีที่รุ่นพี่ขับรถไปชนนั่นน่ะ



ตายแล้ว!!!



ตอนที่รถมันไปชนต้นไม้เนี่ย เพราะกำลังจะไปพะเยา



เพื่อไปงานศพของคู่กรณีคนนั้น



มันไม่เป็นอะไรก็จริง



แต่คนขับรถ ซึ่งเคยขับรถให้ค่ายมาแต่ไหนแต่ไร ผมก็สนิทกับเขามาก



เข้าห้องผ่าตัด ห้องโดยสาร( รถกระบะ แบบมี cab ) พังยับ



พ่อของรุ่นพี่คนที่เป็นต้นเรื่อง ก็บาดเจ็บไม่น้อย



และยังมีน้องอีกคนหนึ่งที่ไปด้วย บาดเจ็บมากจนต้องผ่าตัดเหมือนกัน



ฟังเสร็จก็ อืม...





เช้าวันนั้นฝนตกหนัก



ตอนแรกผมว่าจะไปเชียงใหม่วันนั้นแหละ



แต่ตื่นขึ้นมาฝนตกก็เลยไม่ไป



คิดไปคิดมาอีกที



จะไปเชียงใหม่ดีรึเปล่า



รุ่นพี่ก็ไปแล้ว



รุ่นน้องก็ไปแล้ว



เหลือแต่กรู



จะไปด้วยมั้ยเนี่ย...



ก็เลยผัดวันที่จะไปเชียงใหม่ออกไปอีก



โดยไม่คิดว่าจะไป



แต่ก็เกิดอาการทนไม่ไหว



บอกว่า พรุ่งนี้จะไปเชียงใหม่แล้ว



คิดถึงจริง ๆ





เย็นวันนั้น หลังจากไปเยี่ยมน้องคนสนิทที่หอพักและเพื่อนของมัน รวมทั้งเป็นเพื่อนของผมด้วย



ก็ไปกิน MK กัน



ข้าพเจ้าก็พูดติดตลกว่า



นี่มัน The Last Supper ของกรูรึเปล่าเนี่ย



ว่าแล้วก็เอาเบอร์ของใครคนหนึ่ง ที่ชื่อ เสี่ยวอ้าย ให้น้องของผมไป



บอกว่า ถ้าฉันตายก็โทรไปบอกเสี่ยวอ้ายด้วยละกัน



แล้วก็บอกเธอด้วยว่า ฉันรักเธอมาก รักมากกว่าใคร รักเธอคนเดียวจริง ๆ



แม้ว่าฉันจะอยู่กับคนอื่นบ้างในบางเวลา แต่เธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดของฉัน



เสี่ยวอ้ายคือคนที่ดีที่สุด



น้ำตามันเหมือนจะไหลออกมาอย่างไรก็ไม่รู้



แล้วก็เอาเบอร์พ่อของผมให้ไว้ด้วย



บอกพ่อฉันด้วยถ้าฉันตาย



บอกด้วยว่าฉันรักครอบครัวฉันที่สุด



อ้อ ต้นฉบับนิยายเรื่องล่าสุดของฉันอยู่ในเครื่องแกแล้วนะ



เอาไปส่งสำนักพิมพ์ด้วย ถ้าไม่ได้กลับมาอีก



ว่าแล้วก็เดินออกมาจากหอมาเพื่อขึ้นแท็กซี่กลับที่พัก



ฉันจะไม่ลืม The Last Supper ของแกเลย



พูดเสร็จก็ขึ้นรถ








ตื่นขึ้นตอนเช้า



ปรากฏว่า ผมยังไม่ไปเชียงใหม่



555+



ขำตัวเองมาก



กรูยังไม่ตาย



ยังมีชีวิตอยู่



ดีใจมาก



วันต่อมา



ก็ค่อยไปเชียงตามที่อยากไป



ต้องขอบคุณแม่ของผมมาก



ที่ไม่ได้โอนเงินมาให้



ทำให้ยังไปไหนไม่ได้



ไม่งั้นอาจตายแล้ว



555+



เกี่ยวมั้ยนี่





เรื่องราวก็จบแต่เท่านี้



ตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่



และคาดว่าคงยังไม่ตายไปอีกนาน



ทิวฟ้า ทัดตะวัน

07/11/2551

ไม่มีความคิดเห็น: