ขณะข้าพเจ้ากำลังจะทำการรักษารากฟันแก่ผู้ป่วย
ปกติแม่รู้ดีว่าข้าพเจ้าทำงานตอนไหน
ไม่ผิดความธรรมดาไปนัก
และไม่เกินความคาดหมาย
น้าชายของข้าพเจ้า
ผู้ซึ่งเป็นน้องชายคนที่สองของแม่
ถึงแก่ความตาย
โดยวาระแห่งโรค
เมื่อต้นปีนี้เอง
ที่น้าชายของข้าพเจ้าเริ่มมีอาการผิดปกติ
ข้าพเจ้าแนะนำให้พามารักษาตัวที่บ้าน
หากอยู่ที่บ้านเรา
อย่างน้อย
เราก็ยังมีญาติ
มีความอบอุ่น
และมีแม่ของเขา ซึ่งก็คือ ยายของข้าพเจ้า
ตลอดระยะเวลา ๒๕ ปีที่ผ่านมา
ที่บ้านของข้าพเจ้ามีคนตายไปแล้วสองคน
คนแรกคือตาของข้าพเจ้า
เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็กเล็ก ๆ
เมื่อครั้งนั้น ข้าพเจ้ามิได้ร้องไห้
ข้าพเจ้าบอกเพื่อนข้าพเจ้าเมื่อเขาถามว่าทำไมข้าพเจ้าไม่ร้องไห้ว่า
"มันเป็นเรื่องธรรมดา"
ตาข้าพเจ้าเลี้ยงข้าพเจ้ามากับมือ และรักข้าพเจ้ามาก
ทุกเช้าตาจะปั่นจักรยานพาข้าพเจ้าไปโรงเรียน
และไปรับเมื่อโรงเรียนเลิก
แม้โรงเรียนจะอยู่ใกล้บ้านนิดเดียว
แต่ข้าพเจ้าก็ต้องมีคนไปรับไปส่งทุกวัน
โดยเหตุที่ข้าพเจ้าเป็นบุตรชายคนแรกของตระกูลฝ่ายแม่
ข้าพเจ้าได้สละทรัพย์อันข้าพเจ้าสะสมไว้ ให้เป็นค่าเดินทางไปยมโลกแก่ตา
เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าจะตอบแทนตาของข้าพเจ้าในทางวัตถุได้เป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อวานนี้ น้าชายของข้าพเจ้าตายครั้งที่หนึ่ง (จากคำบอกเล่าของแม่)
เขาเดินทางไปแล้ว และเดินกลับมา
เขาบอกว่า เขาเดินไปถึงต้นไม้จิก ซึ่งเป็นต้นไม้ก่อนหลุมศพของตา
มัจจุราชได้บอกแก่เขาว่า เขายังไม่สิ้นกรรมให้กลับไปก่อน
ในระหว่างการเดินทาง
เขาได้ไปหาน้องชายของเขา ซึ่งเป็นน้องชายคนสุดท้องของตระกูล
หมายความว่า แม่ของข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่หนึ่ง ตามด้วยน้องชายอีกหนึ่ง
และน้องชายผู้ซึ่งได้จากไปแล้วหนึ่ง และน้องชายคนสุดท้องอีกหนึ่ง
รวมทั้งสิ้นสี่คนถ้วน
ในระหว่างการเดินทาง
เขาได้ไปหาน้องชายของเขา และเขย่าต้นมะม่วงเป็นการหยอกล้อ
น้องชายของเขาเสมือนรู้ จึ่งร้องทักทาย
จากนั้นเขาฟื้นขึ้นมาและเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ฟัง
เขายังบอกอีกว่า เขาจะไปอีก ในวันนี้
สองวันก่อนหน้า เขาได้โทรบอกให้ลูกชายซึ่งอยู่กรุงเทพฯ มาหาที่บ้าน
เมื่อเริ่มแรกของการมารักษาตัวที่บ้าน
แม่และยายของข้าพเจ้า ซึ่งก็คือ พี่สาวและแม่ของเขา
เป็นผู้จัดการหาเครื่องกินเครื่องอยู่และเครื่องพยาบาลทั้งหมดทั้งมวล
ตระกูลฝ่ายภรรยาของเขานั้นมิใคร่อินังขังขอบ
ทั้งลูกชายและสะใภ้ก็มิเป็นการเป็นงานใด ๆ
ข้าพเจ้าเป็นผู้บอกให้พาเขาไปรักษาในสถานพยาบาลที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในตัวจังหวัด
แรกเริ่มที่ตระกูลฝ่ายภรรยาเริ่มทิ้งเขา เมื่อเขากลายเป็นภาระ
ฝ่ายภรรยายินยอมให้เขาตายโดยจะไม่จัดการให้การรักษาใด ๆ
ข้าพเจ้ามิอาจทนได้
อย่างไรเสีย เขาก็คือน้องชายของแม่ของข้าพเจ้า
หมายความว่า เขาเป็นญาติของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่มีวันจะทิ้งญาติของตัวเอง
แม่และยายคือผู้ให้ค่าดูแลเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ซึ่งเงินของแม่และยายก็คือเงินที่ข้าพเจ้าให้ไว้ใช้จ่าย
ในขณะนั้นข้าพเจ้าได้ทำงานและมีรายได้เพียงพอที่จะให้ครอบครัวแล้ว โดยพวกเขาไม่ต้องทำงานใด ๆ ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ ( แต่พวกเขาไม่เคยทำ พวกเขายังทำงานหนักเป็นปกติ แม้ข้าพเจ้าจะขอร้องเท่าใด ๆ )
น้องชายของเขาและน้องสะใภ้ผู้ซึ่งเป็นภรรยาของน้องชายเขาคือผู้ดูแลเขาเรื่อยมา
ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เขาต้องนอนซมอยู่โรงพยาบาล
หรือในเวลาที่เขาต้องนอนซมอยู่ที่บ้าน
ทั้งเป็นผู้ให้เลือดแก่เขาด้วย
พี่น้องย่อมให้กันได้ทุกอย่าง ครอบครัวของเราไม่เคยทิ้งกัน
มีแต่ตระกูลฝ่ายภรรยาเขาเท่านั้นที่พร้อมจะทิ้งเขาตลอดเวลา
หากความทรงจำข้าพเจ้าไม่ผิดเพี้ยน
เมื่อครั้งข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก
เขาเคยหย่าร้างกันมาแล้ว
ด้วยเหตุเพราะน้าชายของข้าพเจ้าป่วยหนักจนไม่สามารถทำงานได้
เขาต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน
และพวกเราก็ต้องดูแลเขาด้วยครอบครัวของพวกเราเอง
ประวัติศาสตร์เกือบซ้ำรอย
เขาได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
แต่กระบวนการรักษายังไม่เสร็จสิ้น
เขาบอกให้ลูกและภรรยาพาหนีออกมาจากโรงพยาบาล
น้องชายของเขาโกรธมาก และไม่ไปเยี่ยมเขาเป็นแรมเดือน
แม้ข้าพเจ้าจะไม่พอใจ แต่ด้วยความเป็นลูกของแม่
และยายคือแม่ของเขา ข้าพเจ้าก็ต้องให้กำลังใจ
แม่และยายไปดูแลเขาเรื่อยมา
รวมทั้งน้องสะใภ้ของเขา (แม้น้องชายเขาจะโกรธเท่าไหร่แต่ก็ไม่อาจตัดขาดทั้
หมดได้)
ซื้ออาหารไปให้ ให้เงินไว้ใช้ รวมทั้งไปนอนเป็นเพื่อนด้วย
ทุกคนปฏิบัติดังว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อีกครั้ง
เขาต้องหัดเดินใหม่
บางครั้งเจ็บปวดแผลจนต้องร้องด้วยความทรมาน
เราต้องพาเขาไปหาหมออีกหลายครั้ง (หลังจากที่เขาหนีออกจากโรงพยาบาล) เพราะเขาร้องขอ
ในที่สุด เมื่อข้าพเจ้าต้องจากครอบครัวมาทำงานที่ศรีราชา
ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เห็นเขาอีก
ข้าพเจ้าเห็นเขาครั้งสุดท้ายเมื่อครั้งไปเยี่ยมเขาที่ตึกผู้ป่วยชายในโรงพยาบาลที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่นั่นเอง
เขาดีใจที่ข้าพเจ้าไปเยี่ยม พูดคุยด้วยความกระฉับกระเฉง ดังประหนึ่งจะหายป่วยไข้
ข้าพเจ้าให้กำลังใจเขาและถ่ายทอดพลังใจให้เขาอยู่ต่อ
เขาอยู่ต่อไป
เมื่อหลายเดือนก่อนหน้า เขานั้นเองเป็นผู้ไปช่วยจนของจากห้องพักที่กรุงเทพฯ กลับบ้าน
น้าชายผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า
เขาไม่ใคร่จะมีปากเสียงใด ๆ ในครอบครัว
เขาผู้ซึ่งยิ้มแย้มและอ่อนโยน
ในวาระสุดท้าย
เขาเรียกหายาย หมายความว่า เมื่อตอนบ่ายวันนี้
เขาเรียกหาแม่ของเขา
แม่ของเขารีบมาหาเขา
เขาบอกว่าเขายังไม่อยากไป
เขายังอยากอยู่กับแม่ของเขา
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาพูด
แม้ข้าพเจ้าจะเป็นคนกระด้างสักเพียงใด
ข้าพเจ้าก็มิอาจห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลรินเมื่อเขียนมาถึงประโยคนี้
แน่นอนที่สุด ทุกคนย่อมอยากอยู่กับยาย ยายคือผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในโลก
คือผู้หญิงที่อบอุ่นที่สุดในโลก
และแม้แม่ของเขาอยากเหนี่ยวรั้งเขาไว้เพียงใด
พญามัจจุราชก็ไม่อาจไม่ทำหน้าที่
ก่อนหน้านี้เขาได้บอกแก่น้องชายของเขาว่า
กูตายแล้ว เอากูไปไว้ที่ต้นไม้หน้าบ้านนั่น
น้องชายของเขาบอกว่า
แกจะตายได้ยังไง แกยังพูดได้อยู่
ชีวิตนี้น้อยนัก ชีวิตนี้สั้นนัก
เมื่อไม่กี่วันผ่าน
ข้าพเจ้าเพิ่งจะร่างความคิดเกี่ยวกับแก่นหนังสืองานศพของข้าพเจ้าเอง
แม้ข้าพเจ้าจะดำริเรื่องนี้นานแล้ว
แต่มันเพิ่งแจ่มชัดเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
และยังไม่ทันที่ข้าพเจ้าจะตาย
น้าชายของข้าพเจ้ามาตายเสียก่อน
คงอีกไม่นานนักหรอก ที่ข้าพเจ้าจะตายตามเขาไป
เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้
บุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในบัดนี้ ได้เคยกระทำแต่กาลก่อน และจะได้กระทำในอนาคต
ข้าพเจ้าขออุทิศแก่เขาด้วย
ธัชชัย ธัญญาวัลย
ผู้ซึ่งรอคอยความตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น