ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

คิดถึงเด็กชายคนนั้น ครั้งที่ ๒

"คิดถึงเด็กชายคนนั้น ครั้งที่ ๒"


ด้วยความไร้สาระและไม่มีอะไรจะเล่นแล้ว

ข้าพเจ้าจึงเล่นตัดขอบหนังสือ

วิธีการก็ง่ายมาก

แค่เอาหนังสือมาตัดขอบที่เป็นเหลี่ยม ๆ ออก

เพราะข้าพเจ้าสังเกตว่า

ไอ้ขอบเหลี่ยม ๆ นี่มันชอบยับ

(ความจริงมันอาจไม่ชอบ แต่มันจำเป็นต้องยับเพราะมันเหลี่ยม ก็ได้)

และอีกอย่างมันชอบทิ่มแทงเราเวลาเราต้องเอามาวางไว้บนตัวเวลาอ่านหนังสือ

ข้าพเจ้าจึงตั้งบริษัท เพื่อตัดขอบหนังสือโดยเฉพาะ

ลูกค้าผู้มาใช้บริการก็คือ ข้าพเจ้า

สินค้าคือหนังสือทุกเล่มที่มีในครอบครองนั่นแหละ

เมื่อลูกค้าซึ่งก็คือข้าพเจ้าไม่มีอะไรมาตัดแล้ว

ก็เป็นอันว่า บริษัทต้องปิดตัวลงอย่างไร้สาระ

ข้าพเจ้าไม่นึกว่า อีกสิบปีต่อมา

จะมีสำนักพิมพ์มีความคิดเช่นนี้ด้วย

สำนักพิมพ์นี้ได้ทำหนังสือขอบมนออกมา

ซึ่งข้าพเจ้าชอบมาก

และคิดว่า สำนักพิมพ์อื่น ๆ น่าจะทำตาม

เพราะประโยชน์ตกอยู่ที่ผู้อ่าน

แต่

ปัญญหาคือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นของสำนักพิมพ์

เพราะมันต้องเป็นบล็อกต่างหาก สำหรับตัดหนังสือเล่มนี้


เมื่อบริษัทปิดตัวลง

ข้าพเจ้าก็ว่างงาน และไม่มีอะไรทำ

จึงต้องหันไปทำอาชีพอื่น

เนื่องจากสมัยนั้น (ที่ข้าพเจ้าจำได้)

ภาพยนตร์เปาบุ้นจิ้นกำลังโด่งดัง

โดยเฉพาะจั่นเจา

ข้าพเจ้าไม่รอช้ารีบตั้งบริษัทผลิตพระจันทร์เสี้ยวสำหรับติดหน้าผาก

เพื่อผู้คลั่งไคล้เปาบุ้นจิ้นจะได้เอาไปแปะ

รวมทั้งหมวกท่านเปา

และกระบี่จั่นเจาด้วย

สินค้าข้าพเจ้าขายได้บ้าง

โดยข้าพเจ้าเป็นผู้ซื้อมาใช้เช่นเดิม

ที่ขายดีสุด คือ พระจันทร์เสี้ยว เพราะมันชอบหลุด

ส่วนหมวกท่านเปานั้น ก็ต้องซ่อมบ่อย ๆ

ทำให้ต้องตั้งบริษัทซ่อมหมวกท่านเปาขึ้นมาอีกหนึ่งบริษัท

ส่วนกระบี่จั่นเจานั้นเป็นงานฝีมือ ทำยากมาก

และต้องไปลักเอาไหมพรมที่แม่ใช้ถักปลอกหมอน(ยายใช้ทอผ้าห่ม)

มาทำเป็นพู่ห้อยด้วยอีกต่างหาก

กระบี่นั้นทำด้วยไม้ไผ่

เวลาไปรบกับโจร (ซึ่งก็คือต้นกล้วยและพงหญ้า)

กระบี่มักจะหักทุกครั้ง

ทำให้บริษัทผลิตกระบี่มีงานทำเสมอ

ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้ข้าพเจ้ามีงานทำด้วย

การเล่นเป็นท่านเปานั้นง่ายมาก

แค่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วใช้ไม้เคาะโต๊ะพร้อมกับแหกปาก

เสร็จแล้วโยนไม้หนึ่งอันพร้อมกับพูดว่า "ประหารรรรรร!!!"

เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง

ส่วนการเป็นจั่นเจานั้นยากหน่อย เพราะต้องกระโดดโลดเต้น

แถมยังต้องไปยืมวิชากระบี่มาจากเอี้ยก้วยอีก


จบตอนที่ ๒ แต่เท่านี้ก่อน (มีคนไข้มา หุหุ )



Arty Dhanyaawalaya
21 สิงหาคม 2553

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เก๋ชอบนะพี่ตี้

น่ารักดีออก

คราวหน้าถ้าเจอกันจะทักว่า

"เป็นไง ซ่อมหมวกถึงไหนแล้ว" ^^

artyhouse กล่าวว่า...

555 ขอบคุณนะที่ชอบ
มันเป็นความบ้าบอของเด็กคนหนึ่ง
ซึ่งพอเราคิดถึงเขาแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้

artyhouse กล่าวว่า...

ว่าแต่...แล้วเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ 5555