ความจริงมันเป็นเรื่องน่ารัก
ที่เราจะทำงานอะไรซักอย่างที่เรารัก
แต่ทว่า บางครั้ง เราก็คิดอะไรไม่ออก
ข้าพเจ้าหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ
ดื่มดำ่กับความหลับและความฝัน
ความฝันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อของชีวิตโดยแท้
จนบางครั้งเกิดภาวะสงสัยระหว่างความฝันกับความจริง
การที่คนเราเกิดมาแล้ว
มีอายุขัยหกสิบปีถือว่าน้อยไปหรือไม่
ข้าพเจ้าเคยคิดว่า
ถ้าอายุหกสิบปีแล้วข้าพเจ้าจะตาย
เพราะไม่อยากจะใช้ชีวิตด้วยความทรมานด้วยสรรพโรคในบั้นปลาย
แต่เราจะรู้หรือ
ว่านั่นคือเรื่องจริง
ไม่ใช่เรื่องฝัน
ช่วงนี้เข้าใกล้ช่วงเทศกาลสอบเรียนต่อ
มันน่าตลกเหมือนกัน
ที่เราต้องเรียนต่อ
ทั้งที่เรียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 18 ปี
ข้อนี้หมายความถึงการเรียนในระบบ
มันตลกที่ว่า
เราอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำเพื่อสอบ
เราต้องอ่านหนังสือสอบอีกเมื่อสอบได้
แล้วเราก็ต้องทำงานหลังสอบได้กระดาษแผ่นหนึ่งแล้ว
เราคิดว่าถ้าเราได้กระดาษสักแผ่นหนึ่ง
ชีวิตจะมีความสุข
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
เราอยากได้กระดาษอีกแผ่น
แล้วเราจะมีความสุข
และเมื่อเวลาผ่านไปอีก
เราก็อยากได้กระดาษอีกแผ่น
ชีวิตจมอยู่กับกระดาษแผ่นบาง ๆ หลาย ๆ แผ่น
แล้วเราก็หลงไปว่า
กระดาษเหล่านี้คือเครื่องการันตีความสุดยอดของเรา
ทั้งที่มันเป็นแค่กระดาษ
และสิ่งที่ได้มาคือความไร้สาระแก่นสารของชีวิตแท้ ๆ
เมื่อไหร่คนเราจะเลิกแสวงหาความไร้สาระกัน
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
๒๖ ธ.ค. ๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น