ยกที่
๖
ว่ากันเรื่องจัดฟันต่อ
อ้าว
ลืมชื่อยกอีกแล้ว
ไหนว่าไม่ลืม
ไม่ลืมไม่เลือนเหมือนเดือนคู่ฟ้า
(นึกถึงเสียงคุณป้าผ่องศรี
วรนุช)
ผมว่าต่อไปเราเลิกคุยกันเรื่องชื่อยกอะไรนี่เถอะครับ
คิดว่าท่านผู้อ่านก็คงรำคาญเต็มทน
จัดฟันแฟชั่น
ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะในวงการทันตแพทย์
ความจริงตอนมันเดินมาถึงทันตแพทย์แล้วนี่
อาจจะคือปลายเหตุของปัญหาซะด้วยซ้ำ
ทำไมเด็กถึงอยากจัดฟันกันนักหนา
ทั้งที่ถ้าเราย้อนหลังไปเมื่อสักยี่สิบกว่าปีก่อน
(ปีนี้ ๒๕๕๕)
การจัดฟันมันช่างเป็นอะไรที่....
ใครจัดฟันนี่เป็นเรื่องใหญ่เลย
หมอจัดฟันนั่งตบยุงกันจนยุงแทบสูญพันธ์ุ
โชคดีคลองแสนแสบเขาประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ไว้
ห้ามหมอจัดฟันเข้าไปทำงานแถวนั้น
(ล้อเล่น)
มาสมัยนี้
ถ้าเห็นคลินิกไหนมีคนไข้นั่งกันรึ่ม
ยิ่งกว่ายุงคลองแสนแสบ
(เขตอนุรักษ์)
ล่ะก็
นั่นแหละ
บร๊ะเจ้า!
หมอจัดฟันลงตรวจ
เนื่องจากเป็นหมอฟัน
ผมก็ไม่อยากจะก้าวก่ายปัญหาอื่นของประเทศชาติให้มาก
เพราะพูดไปก็น้ำเน่าเล่าซ้ำ
จัดฟันแฟชั่นเถื่อน
ๆ จะทำให้ฟันเยินได้ภายในเวลาไม่นาน
เห็นมามากต่อมากนะครับ
ประเภทมาถอดเหล็กเพราะปวดฟัน
บางทีปวดเพราะยางดึงฟัน
บางทีปวดเพราะฟันผุทุละโพรงประสาท
หินปูนเขรอะเต็มปากเต็มคำ
แล้วประเทศไทยนี่มันเป็นอะไรซักอย่าง
อะไรที่เป็นแฟชั่นขึ้นมาแล้วมันแห่แหนกันทำ
ไม่ดูบริบทของตัวเอง
(ชักรู้สึกว่าเริ่มเครียด
ๆ อิอิ)
บางคนฟันเรียบเรียงสวย
บอก
หมอคะ
อยากจัดฟัน
จัดทำไมฟันสวยอยู่แล้ว
อยากให้หน้าเรียว
ใครบอก
เห็นดาราเขาพูดกันน่ะค่ะ
จริงป่าวคะ
ชิชะ!
สี่สิบเก้าจะห้าสิบเดือนหน้านี่แล้ว
อยากจัดฟันให้หน้าเรียว
ไปยันฮีดีกว่าไหมป้า
Dr.Arty
"หมายเหตุ- ไม่รับรองว่าเนื้อหานี้จะถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ไม่ควรอ่านติดต่อกันเกินวันละสองรอบ ควรซื้อหนังสือเล่มอื่น ๆ ของผู้เขียนมาอ่านจะดีกว่า การอ่านบทความนี้มากกว่าสามรอบไม่ทำให้ท่านเป็นคนคบไม่ได้แต่อย่างใด เด็กและสตรีมีครรภ์ควรอ่านพอประมาณ การอ่านเสียงดังจะทำให้ผู้อื่นได้ยินเสียงของท่านได้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น