ความเดิมตอนที่แล้ว คลิกที่นี่ (คลิกเสร็จเลื่อนลงด้านล่างนะจ๊ะ)
บทที่ ๔
(นำเสนอให้อ่าน ณ บล็อกแห่งนี้ เป็นตอนสุดท้าย
ท่านผู้อ่านสามารถติดตามต่อได้ใน ฉบับอีบุ๊ค ตามลิ้งค์ที่ปรากฏด้านล่างสุดจ้า ^ ^)
“สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ” “ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์ช่องหอกสามสีโสเภณีเพื่อคุณ
“สำหรับข่าวแรกของเราในวันนี้นะคะ ก็เป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้ค่ะ
“ตามที่นางระดอหรา แระเบอมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโสเภณีได้นำเรื่องนโยบายการจัดตั้งสถาบันโสเภณีวัยแรกดรุณีแห่งชาติเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเช้าวันนี้ ผลปรากฏออกมาว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับนโยบายในเรื่องนี้แล้วค่ะ”
ภาพตัดไปที่นางระดอหรากำลังถูกรุมล้อมด้วยนักข่าวกลุ่มใหญ่ เสียงผู้ประกาศข่าวพูดเรื่อยไป
“โดยนางระดอหรากล่าวว่า เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้และไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับเกณฑ์อายุขั้นต่ำของโสเภณีแต่อย่างใด เพราะกำลังจะมีการพิจารณาแก้กฎหมายกันในเร็ว ๆ นี้”
“ไม่มีปัญหาค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย” ท่านรัฐมนตรียิ้มระรื่น
“แล้วเรื่องสิทธิมนุษยชนล่ะครับ” คำถามแทรกสอดจากนักข่าว
“โดยหลักการแล้วไม่มีปัญหาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิหรือเรื่องที่คิดว่าจะเป็นการใช้แรงงานเด็ก เพราะโสเภณีไม่ใช่ผู้ใช้แรงงาน”
ภาพยังคงอยู่ที่นางระดอหรา นางกำลังจะก้าวขึ้นรถประจำตำแหน่ง
เป็นเสียงผู้ประกาศข่าวหญิงคนเดิม
“นางระดอหรายังกล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างและการจัดหลักสูตรเรียบร้อยแล้ว คาดว่าไม่เกินหกเดือนก็จะมีสถาบันโสเภณีแห่งใหม่ พร้อมเปิดทำการเรียนการสอนได้อย่างสมบูรณ์”
ภาพตัดมาผู้ประกาศข่าวทั้งสองคน
“ไปดูที่ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญกันบ้างนะครับ ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ทาสิรินี ภควกาโม อาจารย์ประจำสาขาวิชาประวัติศาสตร์และปรัชญาโสเภณี วิทยาลัยโสเภณีแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า การมีโสเภณีวัยแรกดรุณีนั้นเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปิดกั้นโอกาสและอนาคตทางด้านอื่นของเด็กมากเกินไป และมีจุดประสงค์สื่อชัดถึงความต้องการตอบสนองตัณหาทางเพศมากกว่าเป็นไปเพื่อความงดงามของกามลักษณ์และกามารมณ์
“นอกจากนี้ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ทาสิรินียังกล่าวอีกว่า หลักการของโสเภณีวัยแรกดรุณีนั้นขัดแย้งกับหลักปรัชญาแห่งการมีอยู่ของโสเภณีอย่างร้ายแรงมากมายอีกด้วย”
ภาพตัดไปเป็นผู้หญิงผมสีทองใบหน้าหยิ่งยโส สายตาคมกริบที่ลอดผ่านแว่นกรอบสีแดงรูปวงรีนั้นชวนให้น่าเกรงขามและน่าเชื่อถือไปพร้อมกัน
“ดิชั้นไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ กับนโยบายของกระทรวงในครั้งนี้ มันจะทำให้สถาบันโสเภณีเสื่อมถอยมากกว่าเจริญ และเป็นที่ติฉินนินทาของนานาอารยประเทศถึงความไร้ซึ่งจริยธรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ขัดกับหลักการและเหตุผลของปรัชญาโสเภณี
“ดิชั้นและผู้ไม่เห็นด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น คณาจารย์ โสเภณีอาวุโส โสเภณีแห่งชาติ โสเภณีตราตั้งทุกอันดับ โสเภณีประดับเพชรทุกชั้น โสเภณีชั้นสูงและโสเภณีทั่วไป รวมทั้งนักศึกษาจากวิทยาลัยโสเภณีแห่งชาติ จะร่วมลงชื่อและส่งหนังสือคัดค้านถึงท่านนายกรัฐมนตรีอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ภาพตัดไปหาผู้หญิงผมสีชมพู แววตาหม่นหมอง เธอพยายามฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา
เสียงของผู้ประกาศข่าวชาย
“ส่วนทางด้านดอกเตอร์วิรารียะ กรมกากรี ผู้เชี่ยวชาญด้านกามกิจภาคทฤษฎี สถาบันวิจัยโสเภณีแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า วัยแรกดรุณีนั้นเป็นวัยที่งดงามและบริสุทธิ์ เหมาะแก่การเสพผัสสะเพื่อความสุขอันสูงสุดตามหลักปรัชญาของกามกิจ
“ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยของสถาบันเองพบว่าเด็กวัยรุ่นกว่า ๙๕ % เคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่อายุ ๑๓ ปี”
เสียงของดอกเตอร์วิรารียะ
“เราอย่าเรียกว่าโสเภณีเด็ก เราต้องเรียกว่าโสเภณีวัยแรกรุ่น หรือโสเภณีวัยแรกดรุณีเหมือนอย่างที่หลายท่านใช้กัน
“มันเป็นความเร่าร้อนและเร่งเร้าตามธรรมชาติ คล้ายดอกไม้ตูมอันมีกลีบอวบอิ่มเต็มที่ที่พร้อมจะผลิบานเมื่อแสงแรกของอรุณใหม่มาเยือน
“เราต้องยอมรับว่าเราไม่อาจทำให้ปัญหาโสเภณีเถื่อนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์หมดไปได้ มันจะดีกว่า หากเรามีสถาบันขึ้นมาฝึกสอนกันอย่างถูกต้องและมีกฎหมายรองรับ”
ภาพตัดมาผู้ประกาศข่าวทั้งสอง
“ค่ะ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละฝ่ายนะคะ ช่วงนี้พักชมโฆษณาสักครู่ก่อนค่ะ”
“แล้วกลับมาพบกันครับ”
ภาพตัดไปเป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งลื่นไถลจากที่สูง พร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขลงมาเจอเด็กผู้หญิงวัยรุ่นหน้าตาดีที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน ทั้งสองยืนกุมมือ พยายามทำสีหน้าท่าทางแสดงให้เห็นว่ามีความสุขสุดยอดเมื่อได้ทำเช่นนั้น มีภาพถุงยางอนามัยยี่ห้อหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงพูดนุ่มนวล
“ลื่นทุกขณะสุขจนถึงจุดสุดท้าย”
ภาพตัดไป
ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งเพียงลำพังบนเก้าอี้ เขาก้มหน้ามองพื้น สายตาคู่นั้นเหม่อลอย แสดงให้เห็นว่าหมดอาลัยตายอยากอย่างยิ่งยวดในชีวิต
มีเสียงดนตรีเศร้า ๆ คลอเบาหวิว ก่อนมีเสียงบรรยายตามมา
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของความล้มเหลว”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ เสียงดนตรียังเบาหวิวต่อเนื่อง
“ผมไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร” เขาพูดพร้อมจับเชือกที่ผูกเป็นบ่วงด้วยมือทั้งสองข้าง
ค่อย ๆ ยื่นคอพาดเข้าไป
ติ๊งต่อง! เสียงออดดังขึ้นพร้อมเสียงพูดหวานใส ดนตรีเศร้าหยุดลง
“ฉีมพลีเซ็กซ์เดลิเวอรี่ สวัสดีค่ะ”
ชายหนุ่มลงจากเก้าอี้ไปเปิดประตูอย่างหัวเสีย
“ผมไม่ได้ส--” เขาตกตะลึงตาค้าง
หญิงสาวงามพริ้งรูปร่างสมส่วนยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยชุดชวนวาบไหว เธอก้มลงไปดูอุปกรณ์ล้ำสมัยรูปทรงทื่อมะลื่อสำหรับบันทึกที่อยู่ของลูกค้า คอเสื้อคว้านลึกเผยให้เห็นเนินนิทราอวบอิ่มเด่นชัด ในเจ้าทื่อเป็นหมายเลข “69”
หญิงสาวเลื่อนสายตาขึ้น
หมายเลขห้องของชายหนุ่ม “66”
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ผิดห้อง” หญิงสาวยิ้มเอียงอายและทำท่าจะเดินจากไป
ชายหนุ่มฉุดรั้งมือเธอไว้ ทั้งสองสบตากันลึกซึ้ง เพลงรักหวามแหววเริ่มบรรเลง
สุดท้ายเป็นภาพประตูกำลังสั่นสะเทือนเลือนลั่น จังหวะตรงกับเสียงกึก ๆ ที่เล็ดลอดออกมาพร้อม ๆ เสียงร้องครวญครางสุดสยิวนั้น หมายเลข 6 ตัวท้ายหมุนตามเข็มนาฬิกาห้อยหางลงด้านล่างเพราะแรงกระทบสะท้อนสะท้าน
“69”
สัญลักษณ์บริษัทฉิมพลีเซ็กซ์เดลิเวอรี่ค่อย ๆ ปรากฏบนหน้าจอมุมล่างขวา ขณะข้อความขนาดใหญ่ผุดขึ้นตรงกลาง
“ให้เซ็กซ์ช่วยชีวิตคุณ”
จีรานอนหลับในท่าตะแคงซ้าย ขาขวาเกยก่ายอยู่บนหมอนข้างลายเจ้าแม่จูโน เส้นผมบางส่วนปิดใบหน้าขาวนวลบางส่วน เธอยังอยู่ในชุดนักศึกษา ความหลับใหลมาเยือนเธอนานแล้ว ก่อนรายการข่าวภาคค่ำจะเริ่มเสียด้วยซ้ำ
“ยังไงล่ะคะคุณชาย กลับมาทำไมคะ กลับมาหาคนไม่ดี คนชั่ว คนไร้สกุลรุนชาติของคุณชาย กลับมาทำมั้ย!!!” ประโยคสุดท้ายเธอแผดเสียงสูงลิ่ว ตามด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงสะอื้นไห้
ผู้หญิงห้องข้าง ๆ
รายการโทรทัศน์ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
ลูกบิดประตูห้องจีราถูกไข แต่ไม่สามารถเปิดเข้ามาได้โดยง่ายเช่นที่เคย มันต้องสแกนม่านตาอีกชั้นหนึ่งเสียแล้ว เสียงทุบประตูดังสนั่นพร้อมเสียงร้องเรียก
ปึง ๆ ๆ ๆ
“จีรา!”
ปึง ๆ ๆ
“จีรา!”
สามารถดาวน์โหลดฉบับ E-book ได้แล้ว
สงวนลิขสิทธิ์ © 2012
ธัชชัย ธัญญาวัลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น